ภาษาอังกฤษสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน

อยากเดินทางต่างประเทศมั้ย? คุณทำได้สบายมากเมื่อคุณพูดอังกฤษเป็น! ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลในอุตสาหกรรมการบิน อ่านดูประโยคต่อไปนี้ที่ใช้กันบ่อยๆ ที่สนามบินแล้วคุณจะเดินทางต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ

 

Do you have an e-ticket or a paper ticket? – คำว่า e-ticket ย่อมาจากelectronic ticket หมายถึงตั๋วที่คุณซื้อถูกบันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของสายการบินแล้ว คุณเพียงแต่ต้องแสดงบัตรประจำตัวเมื่อเช็คอินเท่านั้นเอง ส่วน paper ticket หมายถึงตั๋วกระดาษที่คล้ายๆ กับตั๋วชมคอนเสิร์ต ถ้าคุณทำหาย คุณต้องซื้อใหม่!

Are you checking baggage or carrying on? – Baggage เป็นคำที่ใช้เรียกทุกอย่างที่คุณแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง เป้ กล่อง หรืออื่นๆ ถ้าคุณมีกระเป๋าใบใหญ่หรือมีมากกว่าหนึ่งใบ คุณต้อง check กระเป๋าของคุณ และนั่นก็หมายถึงคุณต้องส่งเข้าเก็บในท้องเครื่องบินลำนั้นนั่นเอง ส่วนคำว่า carry-on เป็นคำนามหมายถึงกระเป๋าใบเล็กที่คุณหิ้วขึ้นเครื่องไปกับตัว

Would you like a window or aisle seat? – ไม่ต้องติดแหง็กตรงกลางอีกต่อไป! ถ้าคุณชอบมองออกทางหน้าต่างก็บอกไปว่าคุณขอ window seat. แต่ถ้าคุณอยากลุกยืนยืดแข้งยืดขาหรือstretch your legs อย่างสะดวกก็ให้ขอ aisle seat

Here’s your boarding pass. – คำว่า boarding pass คือเอกสารที่ออกให้เมื่อคุณเช็คอินโดยมีหมายเลขที่นั่งของคุณและหมายเลขประตูขึ้นเครื่องพิมพ์ไว้บนนั้น คุณจำเป็นต้องมีเอกสารสำคัญอันนี้เพื่อผ่านด่านตรวจรักษาความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องของคุณ

Is this flight non-stop or does it have a layover? – คำว่า layover หมายถึงหยุดระหว่างทางก่อนไปถึงปลายทาง ส่วนคำว่าNon-stop หมายถึงบินรวดเดียวไปถึงปลายทางเลยโดยไม่ต้องหยุดพักที่ใดก่อน

After the security check, board your flight at gate 3. – คำว่า security check หมายถึงที่ๆ คุณพร้อมกระเป๋าหิ้วติดตัวที่คุณมีต้องผ่านการตรวจหาสิ่งของต้องห้ามที่เป็นอันตราย ส่วนคำว่า Gate หมายถึงพื้นที่ๆ คุณนั่งรอก่อน boardหรือขึ้นเครื่องบินลำของคุณนั่นเอง

Is my flight delayed or on-time? – เมื่อเที่ยวบินของคุณจะออกช้าก่อนกำหนด คุณจะได้ยินประกาศว่าเที่ยวบินนั้นdelayed ส่วน On-time หมายถึงเครื่องบินจะออกตรงเวลาที่กำหนดไว้

Pick up your bags at baggage claim. – Baggage claim เป็นที่ๆ คุณไปรับ checked baggage คืน ซึ่งก็หมายถึงกระเป๋าที่คุณไม่ได้หิ้วติดตัวตอนขึ้นเครื่องนั่นเอง

 

ที่มา : http://www.englishtown.com/community/Channels/article.aspx?articleName=127-fly

ภาพสวยๆ ในวันหิมะตก ที่อังกฤษ

A train passes through snow-covered countryside near Crowhurst, East Sussex

Snow blankets the Hotwells and Clifton areas of Bristol

A family of snowmen on Box Hill, Surrey

Sledges on Dartmoor, Devon

A woman walks down a hill in Bristol, where snow fell overnight

James Egerton is pulled on his sledge by his dog at a park in Bingham, Nottinghamshire

Snow-covered houses in Burton upon Trent

A squirrel takes a nut from a visitor’s hand in York’s Museum Gardens

A woman walks along a snow-covered path outside York Minster

Heavy snow falls as a train leaves Winchfield station in Hampshire

A red panda in a snow-covered tree at Bristol zoo

Snow ploughs clear the runway at Gatwick airport

————————————————————————————————————————-

ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/entertainment_api/2206728/

Dia Frampton – Walk Away (Lyrics)

เพลงสากลน่ารักๆ

Congratulations! SW students

ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆรั้วแดง-เหลืองทุกคนที่ผ่านข้อเขียนโควตา มช และ มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน

http://www3.reg.cmu.ac.th/quota/56/interview/list.php?sch_code=05102&univ_code=1

ประกาศผลสอบข้อเขียน โควตาภาคเหนือ ประจำปีการศึกษา 2556

ผลสอบโควตา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาได้สักพักแล้ว ผลเป็นยังไงกันบ้างคะ

ใครที่ยังไม่ได้ดู สามารถเข้าไปเช็คได้ตามเว็บข้างล่างนี้

http://www3.reg.cmu.ac.th/quota/56/interview/

ท่องเที่ยวช่วงวันคริสต์มาส | 10 เมืองน่าเที่ยวในช่วงวัน Christmas

เมื่อเอ่ยถึงเทศกาลคริสต์มาสนอกจากจะเป็นเทศกาลสำคัญทางศาสนาของชาวคริสเตียนแล้ว ในประเทศทางฝั่งตะวันตกยังถือว่าเทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่หลาย ๆ คนรอคอยกันอีกด้วย เพราะถือเป็นเทศกาลหยุดยาวของชาวตะวันตกเค้าซึ่งในช่วงเวลานี้เองชาวตะวันตกหลาย ๆ คนจะวางแผนเพื่อไปพักผ่อนเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในต่างประเทศกัน บ้างก็จะบินไปท่องเที่ยวในเขตเอเชีย เพื่อต้องการหนีสภาพอากาศที่หนาวกันค่ะ แต่ล่าสุดทาง CNN Go จัดอันดับ 10 เมืองที่น่าไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะถึงนี้มากที่สุด ลองไปดูกันคะว่ามีที่ไหนกันบ้าง

ซานฮวน เปอร์โตริโก
อันดับ 10 ซานฮวน เปอร์โตริโก

เหตุผลที่คุณควรไป : เพราะที่มีเค้ามีเทศกาลคริสต์มาสมาราธอนหน่ะสิ ! จะไม่ให้เรียกว่ามาราธอนได้อย่างไรในเมื่อที่ Puerto Rico เค้าเริ่มเทศกาลกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมเลยทีเดียว

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : ร่วมร้องเพลงในช่วงเทศกาล ลิ้มรสไก่งวงรสเลิศ พร้อม ๆ กับนั่งดูการจุดพลุไฟทุก ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันคริสต์มาสอีฟชาวเปอร์โตริกันจะเข้าร่วมพิธีมิสซาหมู่ร่วมกัน จากนั้นในวันสิ้นปีรัฐบาลจะจัดงานส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ ประชาชนจะร่วมกันทานองุ่น 12 ผล เพราะสื่อถึงความโชคดี
แต่งานที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คงต้องยกให้วันที่ 6 ม.ค. เพราะถือว่าเป็นวัน Three Kings Day ซึ่งในวันนี้เด็ก ๆ จะได้รับของขวัญฟรี ที่ทำเนียบรัฐบาลของเปอร์โตริโก้

ลอนดอน อังกฤษ

อันดับ 9 ลอนดอน อังกฤษ

เหตุผลที่คุณควรไป : ว่ากันว่าที่มีเป็นแหล่งชุมชนของซานต้า ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด :ดูเหมือนว่ากิจกรรมที่ห้ามพลาดจะเหมาะกับบรรดาคุณพ่อคุณแม่เสียมากกว่าเพราะมีกิจกรรมที่บรรดาคุณหนู ๆ จะได้สนุกสนานกับคุณซานต้ามากมายเต็มไปหมด

นิวยอร์ค อเมริกา

อันดับที่ 8 นิวยอร์ค อเมริกา

เหตุผลที่คุณควรไป : ว่ากันว่าตราบใดที่ไม่มีการเปิดไฟที่ต้นคริสต์มาสที่สูงกว่า 8 กิโลเมตรที่ตึก ร็อคกี้ เฟลเลอร์ นั่นก็แสดงว่ายังไม่ถึงวันคริสต์มาสที่แท้จริง

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : นอกจากการร่วมชมไฟที่แสงสว่างจากต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ตึกร็อคกี้ เฟลเลอร์ แล้ว อย่าพลาดเล่นสเก็ตน้ำแข็งที่ลานหน้าตึกด้วย และที่สำคัญหากคุณไม่อยากพลาดเมื่อมานิวยอร์คให้คุณเดินช้อปปิ้ง (หรือจะแค่เดินเล่น เราก็ไม่ว่ากันนะ) จาก Bloomingdale ผ่าน Barneys, Bergdorf Goodman, Saks และ Macy’s ไม่อย่างนั้นถือว่ามานิวยอร์คไม่จริง !!!

โตเกียว ญี่ปุ่น

อันดับที่ 7 โตเกียว ญี่ปุ่น

เหตุผลที่คุณควรไป : แม้ว่าที่ฟุคุชิมะจะเพิ่งผ่านพ้นจากภัยพิบัติมาก็ตาม แต่ที่โตเกียวนั้นมีการประดับประดาไฟตามท้องถนนอย่างสวยงาม

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : แน่นอนนอกจากปาร์ตี้ในวันคริสต์มาสแล้ว การเดินเล่นดูไฟที่ประดับประดาตามท้องถนนหรือตึกรามบ้านช่องต่าง ๆ เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะที่ตึกรปปองหงิ ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความงดงามของการประดับไฟ

มูอองส์ ซาร์ตูซ์ ฝรั่งเศส

อันดับที่ 6 มูอองส์ ซาร์ตูซ์ ฝรั่งเศส

เหตุผลที่คุณควรไป : เพราะงาน Christmas figurine fair ถือเป็นงานเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงคริสต์มาสที่มีมาอย่างยาวนาน มากเสียจนคุณควรจะต้องไปลองไปสักครั้งในชีวิต

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : แน่นอนว่านอกจากนักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจไปกับงานเทศกาลแล้ว พวกเขายังสามารถร่วมโชว์ภายในงานด้วยก็ได้

ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

อันดับที่ 5 ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

เหตุผลที่คุณควรไป : ถ้าคุณเบื่อการฉลองเทศกาลคริสต์มาสพร้อมอากาศหนาวสุดขั้วแล้วล่ะก็ ไม่ลองฉลองคริสต์มาสบนชายหาด พร้อมจิบเบียร์เย็น ๆ ไปด้วยล่ะ

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : แน่นอนว่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนั้นชาวตะวันตกจะต้องอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น กลับกันที่ซิดนีย์ ที่นี่ก็มีการฉลองเทศกาลคริสต์มาสเช่นเดียวกับชาวตะวันตก แต่ต่างกันตรงที่ที่นี่อากาศกำลังดี ทำให้ที่นี่จัดงานฉลองเทศกาลคริสต์มาสกลางชายหาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งงาน sunburnt christmas ที่ขึ้นชื่อลือชา ถ้าคุณเบื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสท่ามกลางหิมะแล้วล่ะก็ การฉลองคริสต์มาสกลางชายหาดก็เป็นความคิดที่ไม่เลวใช่มั้ยล่ะ

เวโรน่า อิตาลี

อันดับที่ 4 เวโรน่า อิตาลี

เหตุผลที่คุณควรไป : เพราะนอกจากที่นี่จะมีเทศกาลการฉลองที่โด่งดังไม่แพ้ที่อื่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นถิ่นกำเนิดของโรมิโอกับจูเลียตอีกหน่ะสิ

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : นอกจากการเดินชมงานโชว์ศิลปะ ตลาดท้องถิ่น หรือการแสดงโชว์ต่าง ๆ คุณไม่ควรพลาดการชมปราสาท Malcesine เพราะที่นี่เค้าจะเนรมิตรให้เป็นปราสาทของซานต้าแค่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงเรื่องราวการประสูติของพระเยซูผ่านปิวน้ำที่ทะเลสาบ Garda อีกด้วย

เรกยะวิก ไอซ์แลนด์

อันดับที่ 3 เรกยะวิก ไอซ์แลนด์

เหตุผลที่คุณควรไป : เพราะที่นี่เป็นแหล่งตำนาน ซานต้า กริมม์ และเอลฟ์ในแบบชาวไอซ์แลนด์เอง

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : ห่างจากตัวเมืองเรกยะวิกไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน ฮาฟนาร์ฟยอร์ดูร์ (Hafnarfjördur ) หรือเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหมู่บ้านเอลฟ์ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่หมู่บ้านแห่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่พร้อมชมสินค้าค้าพื้นเมืองที่ถือเป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวเอลฟ์อีกด้วย

เวียนนา ออสเตรีย

อันดับที่ 2 เวียนนา ออสเตรีย

เหตุผลที่คุณควรไป : เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเมืองแห่งความโรแมนติก ถ้าคุณอยากใช้ช่วงคริสต์มาสกับคนรัก ทำไมจะไม่มาที่นี่ล่ะ

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : นอกจากเทศกาลเฉลิมฉลองในเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว การตะเวณชิมอาหารเลิศรสไม่ว่าจะเป็นขนมปังขิง ถั่วอัลมอนด์อบ ไส้กรอกต้นตำหรับ เม็ดเกาลัดหวาน พร้อมจิบไวน์ร้อน ๆ รับรองคริสต์มาสนี้สุขยิ่งกว่าคริสต์มาสปีไหน ๆ แน่นอน

นูเรมเบิร์ก เยอรมนี

อันดับที่ 1 นูเรมเบิร์ก เยอรมนี

เหตุผลที่คุณควรไป : แน่นอนเพราะที่นี่มี Nuremberg Christmas market ที่นอกจากจะใหญ่โตแล้ว ยังดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนแวะมาเยี่ยมเยือนทุก ๆ ปี

กิจกรรมโดน ๆ ที่ห้ามพลาด : ที่นี่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยจริง ๆ บรรดาคุณพ่อคุณแม่จะเพลิดเพลินกับการซื้อหาของที่ตลาดคริสต์มาส ในขณะที่เด็ก ๆ จะสนุกสนานกับพิพิธภัณฑ์ของเล่น ส่วนคุณตาคุณยายหรือคุณปู่คุณย่าก็ยังสามารถเดินชมความหลังกับพิพิธภัณฑ์รถไฟได้อีกด้วย

ที่มา : CNN Go

thanks : http://blog.th.88db.com/?p=18215

สโตนเฮนจ์ ปริศนาหินพิศวง

Stonehenge
Stonehenge
สโตนเฮนจ์ Stonehenge

Stonehenge ปริศนาหินพิศวง

สถาปัตยกรรมหินพิศวง สโตนเฮนจ (Stonehenge) เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่หนักถึง 30 ตัน จำนวน 112 ก้อน ถูกวางตั้งเรียงรายราว 3 กิโลเมตร เป็นวงกลมกลางทุ่งกว้างใหญ่ ซ้อนกัน 3 วง บางก้อนนอน บางก้อนตั้งตรง บางก้อนซ้อนทับอยู่บนยอดก้อนหินที่ตั้งอยู่สองก้อน ไม่มีใครทราบว่าเอามาตั้งเพื่ออะไร และนำเอามาอย่างไร มันตั้งตระหง่านอยู่บนที่ราบซาลิสบิวรี ในเขตวิลท์เชอร์ (Wiltshire) ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษมากว่า 5,000 ปีล่วงมาแล้ว

นับว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชวนพิศวง แสดงให้เห็นถึงการอพยพย้ายถิ่นฐานของชนเผ่าเร่ร่อนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นวิวัฒนาการความก้าวหน้าหรือความเสื่อมถอยของชนเผ่าในยุคนั้น รวมถึงพิธีกรรมความเชื่อในไสยศาสตร์ ก่อนที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้าง สโตนเฮนจ์ จะถูกเปิดเผย ได้มีการตั้งข้อสมมุติฐานต่าง ๆ นานา บ้างก็คิดว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ป้องกันข้าศึก หรืออาจจะเป็นสุสานหรือวิหารที่บูชาเทพจันทรา

ขณะที่นักวิชาการและนักโบราณคดีบางกลุ่มเชื่อว่ามันเป็นซากปรักหักพังของวิหารโรมัน บ้างก็ว่าใช้เป็นที่ประกอบพิธีบูชาพระอาทิตย์ บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นที่ประกอบพิธีฝังศพ หรืออาจจะเป็นสถานที่สำหรับเยียวยาผู้ป่วย เพราะบริเวณนี้พบกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บมากผิดปกติ

Stonehenge
สโตนเฮนจ์ Stonehenge

ส่วนนักดาราศาสตร์ก็อ้างว่า สามารถถอดรหัสแนวหิน สโตนเฮนจ์ ได้ว่าเป็นเครื่องคำนวณเวลายุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งใช้เป็นปฏิทินดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ เพราะแนวหินกลุ่มก้อนต่าง ๆ ล้วนมีความสัมพันธ์กับแนวการเคลื่อนของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวพระเคราะห์ทั้งสิ้น แม้ทฤษฏีทั้งหลายจะมีตัวเลข และสถิติผลการวิจัยสนับสนุน แต่ก็ยังไม่มีแนวคิดใดไขปริศนาลึกลับแห่ง สโตนเฮนจ์ ได้อย่างสมบูรณ์

อาจารย์เจอรัลด์ เอส.ฮอว์กินส์ นักดาราศาสตร์ กล่าวว่า ลักษณะการเรียงตัวของสโตนเฉนจ์นั้นเป็นไปในแนวเดียวกับวงโคจรของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ดังนั้น เจ้าสิ่งนี้มันก็เป็นเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถพยากรณ์การเกิดสุริยุคราส หรือจันทรคราสได้

การก่อสร้าง สโตนเฮนจ์ นั้น ทำสืบเนื่องกันมาถึง 3 ระยะ ในช่วงเวลาประมาณ 1,500 ปี โดยคำนวณอายุได้จากการใช้กัมมันตภาพรังสี ในระยะแรกของการก่อสร้าง ผู้สร้างน่าจะเป็นพวกนักล่าสัตว์หรือชาวนาที่อพยพมาจากภาคพื้นทวีปได้สร้างมันเป็นรูปวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 11 กิโลเมตร

Heel StoneHeel Stone

โดยรอบนอกพวกเขาขุดหลุมเอาไว้ด้วยพลั่วที่ทำจากเขากวางและกระดูกไหปลาร้าวัว ภายในหลุมก็จะใส่หินปูนสีขาวไว้ และเชื่อกันว่าแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงบนหินในช่วงฤดูร้อนนั้น จะช่วยส่งเสริมพลังอำนาจให้กับผู้ประกอบพิธีบูชาเทพเจ้า ส่วนตรงปากทางเข้าจะมี หินฮีล (Heel Stone) วางตั้งอยู่ จะสังเกตได้ว่าหินที่อยู่ในวงกลมจะตั้งอยู่ในแนวเดียวกันกับหินที่อยู่รอบนอก

ความลึกลับชวนค้นหานั้นเอง ทำให้ สโตนเฮนจ์ ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนชมกลุ่มหินประหลาดนี้เป็นจำนวนมาก

Stonehenge สโตนเฮนจ์ Stonehenge

ความน่าพิศวงอีกอย่างหนึ่งของ สโตนเฮนจ์ ก็คือบริเวณรอบ ๆ นั้น เป็นทุ่งกว้างไม่มีภูเขาหรือสิ่งก่อสร้างด้วยก้อนหินอื่น ๆ จึงเป็นปริศนาว่าหินยักษ์เหล่านี้ มาจากที่ไหน และด้วยความหนักและใหญ่ของหินแต่ละก้นจึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ หากมนุษย์เรายังไม่มีเครื่องทุ่นแรงจะยกหรือลากมันมาได้

จึงมีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า สโตนเฮนจ์ เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาว สร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ เช่น เดียวกับที่หมู่บ้าน Avebury ซึ่งอยู่ไกลจาก สโตนเฮนจ์ไปประมาณ 25 กิโลเมตร ที่ Avebury แห่งนี้เองมีลักษณะคล้ายกับสโตนเฮนจ์ มีหินขนาดใหญ่วางเรียงห่าง ๆ กันเป็นวงกลมชั้นเดียว เรียกกันว่า Avebury Stone Circles ถึงจะดูไม่ยิ่งใหญ่ อลังการเท่าสโตนเฮนจ์ ก็สามารถสัมผัสอย่างใกล้ชิดได้

Stonehenge สโตนเฮนจ์ Stonehenge

เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ เขานำหินเหล่านี้มาวางไว้ตรงนี้ได้อย่างไร เพราะคงต้องใช้คนนับพันเพื่อที่จะลากมันมาจากไหนสักแห่ง หินเหล่านี้ถูกนำมาจากหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งหินซาร์เซนน่าจะถูกชักลากมาจากทุ่ง มาร์ลโปรโรดาวนส์ ส่วนหินสีน้ำเงินก้อนใหญ่ที่สุด สันนิษฐานว่ามาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นเวลส์ โดยใช้แพลำเสียงล่องมาตามชายฝั่ง แล้วชักลากต่อมาทางบก ใช้เวลายาวนานถึง 7 ปี เต็มกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น จากนั้นหินขนาดใหญ่เหล่านี้ ก็ถูกนำมาประกอบขึ้นด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของมนุษย์ ถือเป็นความมหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรมของมนุษยชาติที่น่ายกย่องสรรเสริญ

– – – – – – – – – – – – – – – 

ที่มา : http://travel.kapook.com/view16233.html

สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงลอนดอน

1) Big Ben & the Houses of Parliament

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Big Ben & the Houses of Parliament

Station: Westminster
Line:Circle line (yellow), District line (green)

สถานที่สำคัญอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ Big Ben และ House of Parliament ท่านจะพบกับความสวยงามของสถาปัตยกรรม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ หอนาฬิกาบิ๊กเบนหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ วันนี้บิ๊กเบนฉลองอายุครบ 150 ปี มันคือสัญลักษณ์แห่งความมั่นคง ความปลอดภัยและความเป็นประชาธิปไตยชื่อบิ๊กเบนในที่นี้หมายถึงตัวหอนาฬิกาที่มีทั้งมหาระฆังใบใหญ่และนาฬิกา โดยปัจจุบันยังเป็นที่ประชุมรัฐสภาในประเทศอังกฤษ และมีผู้เยี่ยมชมสถานที่นี้จากหลากหลายประเทศทั่วโลก

2) Buckingham Palace

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Buckingham Palace

Station: St James Park
Line:Circle line (yellow), District line (green), Victoria line (light blue)

พระราชวังบัคคิงแฮม Buckingham Palace เดิมชื่อ คฤหาสน์บัคคิงแฮม เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน

3) Camden Lock & Market

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Camden Lock & Market

Station: Camden Town
Line:Northern line (black)

ใครที่ชื่นชอบตลาดนัดจตุจักร เมื่อไปถึงอังกฤษไม่ควรพลาดตลาดนัด Camden Market ที่รวบรวมสินค้าหลายหลายให้เลือกชม อาทิเช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ และของแต่งบ้านเก๋ๆ โดยบริเวณนั้น ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหาร และของทานเล่นจากหลากหลายนานาชาติ

4) Kensington Palace

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Kensington Palace

Station: Queensway or Notting Hill Gate
Line:Central line (red)

พระราชวัง Kensington Palace ได้รวบรวมห้องต่าง ๆ ให้ได้ชมกัน และยังมีบริเวณที่จัดแสดงเกี่ยวกับแฟชั่นของคนในพระราชวังทั้งหญิง และชายในสมัยก่อน รวมถึงจัดแสดงชุดของเจ้าหญิงไดอาน่าอีกด้วย จบจากที่นี่เราก็เดินไปต่อแถว South Kensington ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์มากมายเช่น Natural History Museum, Science Museum, Victoria & Albert Museum ที่กล่าวมานี้เข้าชมฟรีทั้งนั้นคะ แต่วันนั้นได้แต่เข้าไปที่ Natural History Museum และ Science Museum

5) Leicester Square & China Town

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Leicester Square & China Town

Station: Leicester Square
Line:Northern line (black), Piccadilly line (dark blue)

Leicester Square และ China Town เป็นอีกบริเวณนึงที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยรอบบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยสถานบันเทิง อาทิเช่น โรงหนัง Odian, Vue ซึ่งมักจะใช้เป็นสถานที่ เปิดตัวหนังเข้าใหม่ในรอบปฐมทัศน์ และโรงละคร Theater ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิเช่น Lion king, Pantom of the opera. Mama mia เป็นต้น และบรเวณถัดไปคือ China town ซึ่งจัดได้ว่าเป็นศูนย์รวมของ คนเอเชียในกรุงลอนดอน ที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย หรือพบปะเพื่อนฝูงในร้านอาหารที่ถูกใจ จากหลากหลายประเทศ อาทิเช่น อาหารจีน เกาหลี ไทย ญี่ปุ่น และเวียดนาม

6) London Eye

unique เรียนต่อ อังกฤษ: London Eye

Station: Waterloo station
Line:Bakerloo line (brown), Northern line (black), Jubilee line (silver), Waterloo line (light green)

สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด ซึ่งเรียบฝั่งแม่น้ำเทมส์ ลอนดอนอาย มีชื่อเต็ม ๆ ว่า British Airways London Eye เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นต้อนรับปี ค.ศ.2000 ด้วยเงินสนับสนุนจากสายการบิน British Airways โดยมีลักษณะคล้ายๆกับชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ที่สามารถบรรจุ ผู้โดยสารเพื่อเยี่ยมชมทัศนียภาพ รอบๆกรุงลอนดอน โครงสร้างประกอบไปด้วย 32 แคปซูลแก้ว ที่แต่ละแคปซูลสามารถบรรจุผู้คนได้มากถึง 25คน

7) Madame Tussaud’s

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Madame Tussaud's

Station: Baker Street
Line:Bakerloo line (brown), Circle line (yellow), District line (green), Hammersmith & City line (pink)

พิพิธพัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ที่รวบรวมเหล่าศิลปิน ดาราดังรวมไปถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ตั้งแต่ราชวงศ์อังกฤษ นักการเมือง และ นักฟุตบอล

8) Tower of London & Tower Bridge

unique เรียนต่อ อังกฤษ: Tower of London & Tower Bridge

Station: Tower Hill
Line:Circle line (yellow), District line (green)

Tower Bridge เป็นสะพาน ข้ามแม่น้ำเธมส์ สะพานแรก ของลอนดอน บางคนอาจจะคิดว่าเป็นสะพานธรรมดา เหมือนที่เราเคยเห็นทั่วไป แต่จริงๆแล้ว Tower Bridgeต่างกับสะพานอื่นก็คือ ตรงกลางจะสามารถเปิดออกได้ เพื่อที่จะให้เรือลำใหญ่ๆ เขาผ่านได้อย่างสะดวก โดยสะพานแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิว ที่มีความสูงถึง 140 ฟุต เท่านั้น แต่ภายในของฐานสะพาน ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นหอสูง ยังเป็นที่ที่จัดนิทรรศการ เกี่ยวกับประเทศอังกฤษ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

ที่มา : http://www.uniquestudyabroad.com/InformationDetail.aspx?id=6

10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 

10. Hadrian’s Wall

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ Hadrian's Wall

กำแพงเฮเดรียน (Hadrian’s Wall) สร้างขึ้นโดยชาวโรมัน จุดประสงค์เพื่อปกป้องอาณานิคมจากการรุกรานของชนเผ่าสก็อตแลนด์ มีความยาว 117 เมตร พาดขวางแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษ ตั้งแต่ทะเลไอริชจนถึงทะเลเหนือ กำแพงเฮเดรียน เริ่มสร้างในรัชสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในปี ค.ศ. 122 เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 6 ปี ปัจจุบัน มีเพียงกำแพงส่วนกลางที่ยังคงปรากฏให้เห็น สามารถเดินได้ตลอดแนวกำแพง ด้วยความเก่าแก่และสวยงาม กำแพงเฮเดรียน จึงเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1987

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 9. Warwick Castle

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ Warwick Castle

ปราสาทวอริค โครงสร้างเดิมเป็นไม้ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ใน ปีค.ศ. 1068 และได้รับการบูรณะใหม่ โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหินในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ช่วงสงครามร้อยปี ด้านหน้าของ ปราสาทวอริค ที่หันตรงข้ามกับเมือง ก็ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ ปราสาทวอริค กลายเป็นที่จดจำว่าเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อปี ค.ศ. 2001 ปราสาทวอริค ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ของอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 8. Lake District

เที่ยวประเทศอังกฤษ

อีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ Lake District อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ในมณฑลคัมเบรีย จุดดึงดูดใจอยู่ที่ทะเลสาบและเทือกเขา ซึ่งเกิดจากการระบิดของธารน้ำแข็งในยุคสมัยก่อน เกิดเป็นภาพน้ำ ภาพเขา สวยจับใจ จนทุกวันนี้ Lake District เป็นอีกหนึ่งจุดหมายชื่อดังสำหรับนักปีนเขา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือน ราว 14 ล้านคน

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 7. Tower of London

หอคอยแห่งลอนดอน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 เพื่อป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต่อต้านชาวนอร์มัน ต่อมา หอคอยแห่งลอนดอน  ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1100 จนถึง กลางศตวรรษที่ 20 และที่แห่งนี้ถูกโจษจันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สุดหลอน

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 6. The Cotswolds

คอทส์โวลส์ แนวเนินเขาละมุนน่าสัมผัส เมืองที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ชวนหลงใหลที่สุด หนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ จุดที่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล คือ ระยะ 330 เมตร สถานที่ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ได้แก่ หมู่บ้านที่สร้างจากหินสีน้ำผึ้ง ย่านเมืองเก่าแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอังกฤษ

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 5. Durham Cathedral

มหาวิหารเดอรัม คริสตจักรมหาวิหารของพระคริสต์ พระนางมารีย์พรหมจารี และเซนต์คัธเบิร์ตแห่งเดอรัม ตั้งอยู่ที่ เมืองเดอรัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ  เป็นตึกนอร์มันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โครงสร้างของ มหาวิหารเดอรัม เป็นหิน ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1093 ลักษณะโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นแบบโรมาเนสก์ มีหอคอยสูง 66 เมตร มีบันไดขึ้นทั้งหมด 325 ขั้น ภายหลังได้รับการบูรณะและเพิ่มเติมบางส่วน แต่โดยรวมแล้ว มหาวิหารเดอรัม ก็ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมแบบนอร์มัน ในปี ค.ศ. 2011 สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ ได้รับการโหวตจากโพลของสำนักข่าว BBC ให้เป็น สิ่งก่อสร้างที่น่าหลงใหลมากที่สุดในเกาะอังกฤษ องค์การยูเนสโกยกให้ มหาวิหารเดอรัม เป็น มรดกโลก พร้อมกับ ปราสาทเดอรัม ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ริมแม่น้ำเวียร์

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 4. York Minster

มหาวิหารยอร์ก เป็นคริสต์ศาสนสถานแบบกอธิค ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ (รองจากมหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมนี) มหาวิหารยอร์ก เริ่มสร้างใน ปี ค.ศ. 1230 และเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 1472 เป็นสิ่งก่อสร้างที่รวมลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคไว้ทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำ คือ หน้าต่างบานใหญ่ ชื่อ “Great East Window” สร้างใน ปี ค.ศ. 1408 ถือเป็นหน้าต่างประดับกระจกสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 3. Windsor Castle

สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่คุ้นชื่อกันดี พระราชวังวินด์เซอร์ เป็นหนึ่งในที่ประทับของ Queen Elizabeth ที่สอง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และถือเป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก พระมหากษัตริย์และกษัตรีย์แห่งอังกฤษเกือบทุกพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและพัฒนา พระราชวังวินด์เซอร์ จากประวัติตามรัชสมัยต่างๆ ในยามสงบจากศึก พระราชวังวินด์เซอร์ ถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ในยามสงคราม พระราชวังวินด์เซอร์ จะถูกใช้เป็นป้อมปราการด้วยการสร้างเสริมอย่างแน่นหนา และระบบนี้ยังคงใช้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 2. Big Ben

หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือรู้จักกันดีในชื่อของ บิ๊กเบน หอเก่าแก่นี้ถูกสร้าง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 หลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม แท้จริงแล้ว บิ๊กเบน ไม่ใช่ชื่อหอนาฬิกา แต่เป็นชื่อของ ระฆังหนัก 13 ตัน ซึ่งแขวนอยู่ตรงช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา และคำว่า บิ๊กเบน นั้นนำมาจากชื่อของ เซอร์ Benjamin Hall ชายคนแรกที่สั่งซื้อระฆัง Big Ben มีความสูง 96.3 เมตร เป็นหอนาฬิกาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอังกฤษ ทั้งยังปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 1. Stonehenge

 สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ

สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ต้องยกให้ สโตนเฮนจ์ กลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ บนที่ราบ Salisbury บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ที่มาของ สโตนเฮนจ์ยังไม่มีบทสรุปที่แท้จริง มีเพียงข้อสันนิษฐานมากมาย นักโบราณคดีเชื่อว่า กองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง เมื่อประมาณ 3000 – 2000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยการคำนวณอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าแท่งหินยักษ์ทั้งหมดถูกชักลากมาจากที่อื่น เนื่องจากที่ราบบริเวณนั้นไม่มีหิน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก “ทุ่งมาร์ลโบโร” ที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร แต่ก็มีความเชื่อไปในทางเดียวกันว่า สโตนเฮนจ์ น่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนในยุคโบราณ ด้วยความอัศจรรย์และความลึกลับที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด สโตนเฮนจ์ จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

London Eye

Watch the view of London over the London Eye over 24hrs in less than 2 minutes!

thanks : @ on Youtube